แรกๆ ใครๆก็เมินเฉย เมื่ออดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวหาว่ามีการซื้อตำแหน่งผู้ว่าราชการ จังหวัด 20 ล้านบาท รองผู้ว่าราชการจังหวัด 17 ล้านบาท ฯลฯ แต่ เมื่อหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงแฉกลางวงสัมมนาวุฒิสภา กล่าวหาว่าอธิบดีบางกรมซื้อตำแหน่งถึง 300-400 ล้านบาท ทั้งรัฐมนตรีว่าการกับทีมงาน ตลอดจนปลัดกระทรวง และอธิบดีกรมต่างๆจึงเต้น แจ้งจับและเตรียมฟ้องร้อง
การกล่าว หาเรื่องการซื้อขายตำแหน่งฝ่ายปกครอง ตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และการเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างแน่นอน เพราะเป็นตำแหน่งที่เป็นหัวใจ ของข้าราชการฝ่ายปกครอง ผู้มีภารกิจหลักคือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน อดีตรองปลัดกระทรวงกล่าวว่า ถ้าต้องซื้อตำแหน่งมาด้วยเงิน "ศักดิ์ศรีจึงไม่มีเหลือ"
ปัญหานี้ จึงควรมีการสอบสวนอย่างอิสระ เป็นกลาง และโปร่งใส เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีข้าราชการฝ่ายปกครอง จะต้องไม่ใช่ การสอบสวนเองและสรุปเอง ซึ่งจะไม่มีใครเชื่อถือ อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องเหมือนกับคณะกรรมการสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งของตำรวจ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่แค่ "ถ้ามีหลักฐานจะลาออก" เพราะลาออกอย่างเดียวยังไม่พอ แต่ต้องสอบสวนคดีอาญาเรื่องสินบนด้วย
เรื่อง อื้อฉาวที่มหาดไทยเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทดสอบความศักดิ์สิทธิ์ของ "กฎเหล็ก" นายกรัฐมนตรี กฎเหล็กอย่างเดียวยังไม่พอ แต่จะต้องปฏิรูปวัฒนธรรมด้วยการลบล้างความคิดเก่าๆของข้าราชการและนักการ เมือง ที่ยังติดในมิจฉาทิฐิที่ว่าผู้มีอำนาจย่อมมีสิทธิและความชอบธรรม ที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ และต้องปลูกฝังค่านิยมการเคารพกฎหมาย และความซื่อสัตย์สุจริต.

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น