18 พฤษภาคม 2553

ศอฉ.บัญชีดำห้ามโอนเงินล็อต2"บิ๊กจิ๋ว-ตู่-น้องสาวแม้ว-เจ๊เกียว-ปอ ประตูน้ำ-เหยียนปิน-เอสซี แอสเสท

เวลาประมาณ 19.00 นวันที่ 18 พฤษภาคม ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ)ได้ออกคำสั่งที่ 57/2553(ฉบับที่2) เรื่องห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล หรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน โดยประกาศรายชื่อเพิ่มเติมบุคคลอีก 18 ราย และนิติบุคคล 6 ราย(รวม24ราย) ได้แก่


รายชื่อบุคคล

1.นายเจริญ จรรโกมลย์

2.นายเรืองเดช สุพรรณฝ่าย

3.นายจิระศักดิ์ เตชะทวีกุล

4.นางสาวจุฑารัตน์ เมนะเสวต

5.นายธนกฤต ชะเอมน้อย

6.พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ

7.นางเยาวเรศ ชินวัตร

8.นายจตุพร พรหมพันธุ์

9.นายจักรภพ เพ็ญแข

10.นายสุธรรม แสงประทุม

11.นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ

12.นายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ (ปอ ประตูน้ำ)

13.นายพศิน หอกลาง

14.นางสุกัญญา ประจวบเหมาะ

15.นางสุจินดา เชิดชัย(เจ๊เกียว)

16.นายอัสนีย์ เชิดชัย

17.นายสราวุฒิ เชิดชัย

18.นายชาญชัย รวยรุ่งเรือง(เหยียนปิน)

นิติบุคคล 6 ราย

1.บริษัท เวิร์ธซัพพลาย จำกัด

2.บริษัท บี.บี.ดี. ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด

3.บริษัทบี.บี.ดี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

4.บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)

5.บริษัท รวยชัย อินเตอร์เนชั่นแนล กรุป จำกัด

6.บริษัท รวยชัย เมอร์แชนไดส์ จำกัด

สำหรับรายชื่อนิติบุคคล 6ราย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจในตระกูลชินวัตร ดามาพงศ์ และของนายชาญชัย(เหยียนปิน) ขณะที่ เอสซี แอสเสท นั้นเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

คลิกอ่านรายละเอียดการถือหุ้นใน 6 บริษัท เพิ่มเติม

สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในจำนวน 18 รายชื่อมีชื่อเดิมที่ประกาศไปก่อนหน้า 5 ราย(อันดับ1-5) เนื่องจากมีความผิดพลาดเรื่องเลขที่บัตรประชาชนจึงประกาศใหม่ ส่วนรายชื่อตั้งแต่อันดับที่6-18 เป็นรายชื่อใหม่ เช่นเดียวกับนิติบุคคล 6 ราย ซึ่งมีชื่อบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ของนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วย

ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวกำหนดข้อห้ามดังนี้

1.ห้ามมิให้สถาบันการเงิน ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย และสหกรณ์ นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาติให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำนิติกรรมสัญญาหรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจหรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพพย์สินกับบุคคลหรือนิติบุคคลตามบัญชีรายชื่อ 106 คน ซึ่งแบ่งเป็น 13 นิติบุคคลและ 96 บุคคล

และข้อ 3.ให้สถาบันการเงินและนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจแจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมของบุคคลหรือนิติบุคคลตามข้อ 1 ได้กระทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2552 จนถึงวันที่ 17 พ.ค. 2553 มายังหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2553

4.การขอเพิกถอนคำสั่ง นั้นให้ดำเนินการเป็นรายครั้งแล้วโดยให้ยื่นคำขอและแสดงตนต่อหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินพร้อมด้วยหลักฐานที่แสดงว่า การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน ไม่ได้เป็นการกระทำหรือสนับสนุนการกระทำเพื่อให้เกิดเหตุสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง

5.ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับตามาตรา 18 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น